วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

สุนัขป่าขั้วโลก

สุนัขป่าขั้วโลก

     สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันจะพาทุกคนไปรู้จักกับสุนัขป่าขั้วโลกกันค่ะ  เขาเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในหิมะ หรือหลายคนอาจรู้จักกันอยู่เเล้ว ไปพบกับพวกเขากันเลยค่ะ

ประวัติ

    ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บของดินแดนขั้วโลกเหนือ ชีวิตที่นี่ต่างต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และแร้นแค้น และถ้าหากจะเอ่ยถึงสัตว์นักล่าที่น่าสะพรึงกลัวของขั้วโลกเหนือแล้ว ก็คงไม่พ้นเจ้าหมีขั้วโลกไปได้ แต่นอกจากหมีขั้วโลกแล้ว ยังมีนักล่าอีกประเภทหนึ่งที่หากินอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน แต่มีขนาดเล็กกว่าอย่างเทียบไม่ติด มันคือ สุนัขจิ้งจอกขั้วโลก (Arctic Fox)
พวกมันมีถิ่นอาศัยอยู่ในเขตทุนดรา (ทุ่งหญ้ากึ่งแล้งเขตหนาวที่มีหิมะปกคลุม) และพื้นที่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอาร์คติก รวมไปจนพื้นที่แพน้ำแข็งขนาดยักษ์ในเขตขั้วโลกเหนือ เชื่อกันว่า สุนัขจิ้งจอกขั้วโลก เป็นหนึ่งในสัตว์ยุคน้ำแข็งเมื่อประมาณ 10,000 ปีมาแล้ว ที่สืบเชื้อสายมาจนถึงปัจจุบัน ในอดีตบรรพบุรุษของพวกมันท่องเที่ยวหากินร่วมสมัยกับช้างแมมมอธ และสัตว์ยุคน้ำแข็งอื่น ๆ
    สุนัขจิ้งจอกขั้วโลก มีสองประเภท คือ จิ้งจอกขาว (White Arctic Fox) ที่อาศัยอยู่ในเขตทุนดราที่เต็มไปด้วยหิมะ พวกมันมีขนสีขาวเพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้ล่าเหยื่อได้ง่าย และสามารถพรางตัวจากศัตรูได้ด้วย ส่วนจิ้งจอกฟ้า (Blue Arctic Fox) อาศัยอยู่ในเขตชายผั่งมหาสมุทรอาร์คติก ซึ่งมีโขดหินขรุขระ และมีหิมะน้อยกว่า พวกมันจึงมีขนสีฟ้าอมเทาเพื่อให้ดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม


ลักษณะ
     จิ้งจอกขั้วโลกมีใบหน้าทีสั้นกว่าจิ้งจอกชนิดอื่น และมีใบหูที่เล็กเพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน ขนของมันฟูนุ่ม และเป็นที่นิยมในวงการเสื้อขนสัตว์ในอดีต พวกมันจึงถูกไล่ล่าเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันได้มีการนำจิ้งจอกมาเพาะเลี้ยงในฟาร์มแทนการล่า การทำฟาร์มจิ้งจอกขั้วโลกได้กลายเป็นเศรษฐกิจที่สำคัญ สำหรับประชาชนในเขตอาร์คติกที่ทำรายได้ปีละไม่น้อย
    ในการใช้ชีวิตในเขตขั้วโลก จิ้งจอกขั้วโลกจะมีขนอยู่บริเวณอุ้งเท้าเพื่อช่วยให้เดิน และวิ่งบนพื้นน้ำแข็งได้ในช่วงที่หิมะตกหนักหรือเกิดพายุ หมาจิ้งจอกขั้วโลกจะขุดโพรงลึกลงไปใต้หิมะ และขดตัวนอนโดยใช้หางของมันตวัดมาปิดตัวและหน้าไว้คล้ายคนห่มผ้าห่ม
    ในช่วงที่อากาศดี หมาจิ้งจอกจะออกมาอาหาร ตามปกติมันจะล่าสัตว์เล็ก ๆ เช่น เลมมิ่ง (Lemming) นก Ptarmigan บางครั้งถ้าโชค ก็จะเจอซากสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้ ลาภปากเช่นว่านี้มีไม่บ่อยนัก


การสืบพันธุ์
    เมื่อฤดูหนาวหมดลง หิมะเริ่มละลาย ต้นไม้เริ่มผลิใบอ่อน จิ้งจอกขั้วโลกเองก็มีการเปลี่ยนแปลง ขนสีขาวของมันจะร่วงลง และมีขนสีเทาอมน้ำตาลขึ้นแทนและจะสั้นกว่าขนในฤดูหนาว ทำให้ตัวมันดูเล็กลง และมีขนาดเท่าแมวบ้านเท่านั้น
    ในฤดูใบไม้ผลินี้เองที่แม่จิ้งจอกจะให้กำเนิดลูก โดยครอกหนึ่งจะมีประมาณ 6 – 8 ตัว ลูกหมาจะเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันก่อนฤดูหนาวจะมาถึง ในช่วงเวลานี้พวกมันจะกินอาหารเป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูหนาวที่จะมาถึง จิ้งจอกขั้วโลกจะเก็บอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว เช่น ฝังซากนก เลมมิ่ง ไว้ใต้หิมะ เก็บไข่ไว้ในโพรงหิน จิ้งจอกบางตัว เก็บนกเล็ก ๆ ไว้ถึง 27 ตัว และไข่อีก 40 ฟอง สำหรับฤดูหนาว
   ในขั้วโลกเหนือฤดูร้อนนั้นสั้นมาก และเมื่อฤดูหนาวกลับมา จิ้งจอกขั้วโลกก็จะเปลี่ยนสีขนกลับไปเป็นขนสีขาวอีกครั้ง เป็นการบอกให้รู้ว่า การต่อสู้กับความหนาวเย็นกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น