ฮิปโปโปเตมัส
สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันจะเเนะนำให้ทุกคนรู้จักกับฮิปโปโปเตมัสกันค่ะ หรือหลายคนอาจรู้จักกันอยู่เเล้ว ไปดูพวกเขากันเลยค่ะ
ประวัติฮิปโป
ฮิปโปโปเตมัส หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ฮิปโป (อังกฤษ: Hippopotamus; Hippo) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินพืชชนิดหนึ่ง ในอันดับสัตว์กีบคู่ จัดอยู่ในวงศ์ฮิปโปโปเตมัส (Hippopotamidae) โดยเป็นสัตว์เพียง 1 ใน 2 ชนิดของวงศ์นี้ที่ยังสืบทอดเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน (อีกชนิดนั้นคือ ฮิปโปโปเตมัสแคระ (Choeropsis liberiensis) ที่พบในป่าดิบชื้นของแอฟริกาตะวันตก
ชื่อ "ฮิปโปโปเตมัส" มาจากภาษากรีกคำว่า ἵππος (hippos) หมายถึง "ม้า" และ ποταμός (potamos) หมายถึง "แม่น้ำ" รวมแล้วหมายถึง "ม้าแม่น้ำ" หรือ "ม้าน้ำ" (ἱπποπόταμος) เนื่องจากมีส่วนหัวคล้ายม้ามาก โดยเฉพาะยามเมื่ออยู่ในน้ำ
ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างอ้วนกลมใหญ่เทอะทะเหมือนหมู มีจุดเด่น คือ มีส่วนหัวใหญ่และปากกว้างมาก ภายในปากมีเขี้ยวล่างยาวโค้งมาก ที่มีความยาวได้ถึง 40 เซนติเมตร (1.3 ฟุต) และยาวได้มากที่สุด 50 เซนติเมตร (1.6 ฟุต) ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญในการต่อสู้และป้องกันตัว โดยเฉพาะในตัวผู้ที่มีความดุร้ายก้าวร้าว ผิวหนังหนามีต่อมเมือกเคลือบอยู่ ลำตัวมีขนสั้นและน้อยมาก จมูก, หู และตาอยู่ตอนบนของหัว เพื่อสะดวกยามเมื่ออยู่ในน้ำ น้ำหนักตัวหนักมากได้ถึง 2–4 ตัน เหงื่อของฮิปโปโปเตมัสมีลักษณะเป็นเมือกสีแดงอ่อน คล้ายเลือดเคลือบอยู่เพื่อป้องกันแมลงและเพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นตลอดเวลา
ฮิปโปโปเตมัส กระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกา โดยพบได้ตั้งแต่ตอนใต้ของสะฮาราลงไป แม้จะเป็นสัตว์บก แต่ฮิปโปโปเตมัสมักจะอาศัยอยู่ในน้ำในเวลากลางวัน โดยพบได้ทั้งแม่น้ำ, หนองน้ำ, ทะเลสาบ หรือปลักโคลน ว่ายน้ำและดำน้ำได้เก่งมาก สามารถเดินท่องไปในใต้น้ำ เป็นสัตว์ที่อยู่รวมเป็นฝูง ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์ที่เมื่อถ่ายมูลแล้ว จะถ่ายออกมาเป็นจำนวนมากในน้ำ เมื่อถ่ายแล้วจะมีปลากินพืชจำพวกปลาตะเพียนหรือปลาหมอสีตามมากิน หรือแม้กระทั่งตอดตามผิวหนังเพื่อกำจัดปรสิตให้ ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์หากินในเวลากลางคืน โดยจะขึ้นจากน้ำมาหากินบนบก อาหารได้แก่ หญ้านานาชนิด รวมทั้งพืชน้ำ เช่น กกและอ้อ กินหญ้าโดยใช้ริมฝีปากที่แข็งงับแล้วดึงให้ขาดทั้งกอ โดยกินอาหารวันละประมาณ 80 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดน้ำหนักและร่างกาย และมีระยะทางหากินไกลประมาณ 6 กิโลเมตร
ลักษณะ
ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์ที่มีอุปนิสัยดุร้ายฉุนเฉียวมาก โดยเฉพาะในช่วงผสมพันธุ์ ตัวผู้จะสู้กันอย่างรุนแรง เมื่อตกใจหรือได้รับบาดเจ็บจะดุร้ายมาก หรือในวันที่อากาศร้อน ฮิปโปโปเตมัสโดยเฉพาะตัวผู้จะดุร้าย และฮิปโปโปเตมัสที่เป็นแม่ลูกอ่อนจะมีอารมณ์ที่ค่อยข้างจะดุร้ายตลอดเวลาด้วยความหวงลูก ฮิปโปโปเตมัสยังเป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยสามารถอ้าได้กว้างเกือบถึง 180 องศาและยังเป็นสัตว์ที่มีแรงกัดของกรามมากที่สุดอีกชนิดหนึ่งในอาณาจักรสัตว์โลกทั้งหมดด้วย ด้วยมีแรงมากถึง 1,825 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว นับว่าเป็นสัตว์ที่มีอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดในทวีปแอฟริกา ชนิดที่มีมนุษย์ต้องได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตีของฮิปโปโปเตมัสมากกว่าปลาฉลามหรือจระเข้เสียอีกอีกทั้งสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ เช่น จระเข้เมื่อเผชิญหน้าต่อฮิปโปโปเตมัสก็ยังต้องเป็นฝ่ายล่าถอยไป และยังมีรายงานว่าแม้กระทั่งฮิปโปโปเตมัสที่เป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์มาตั้งแต่ยังเล็ก ทำร้ายเจ้าของถึงกระทั่งเสียชีวิต
ฮิปโปโปเตมัสตัวผู้จะใช้หางปัดเวลาถ่ายมูลให้กระเด็นไปรอบ ๆ เพื่อบอกอาณาเขต ฮิปโปโปเตมัสผสมพันธุ์ได้ตลอดปีส่วนใหญ่จะผสมพันธุ์กันในน้ำ ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ระยะเวลาตั้งท้องนาน 227–240 วัน (8 เดือน) ตัวเมียมีเต้านม 2 เต้า ลูกฮิปโปโปเตมัสดูดนมในน้ำ หย่านมเมื่ออายุราว 4–8 เดือน ลูกฮิปโปโปเตมัสอาจจะเกิดบนบกหรือในน้ำก็ได้ แรกเกิดมีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 ปอนด์ ตัวเมียเฉลี่ยจะออกลูกประมาณ 2 ปีต่อครั้ง อายุยืนเต็มที่ราว 60–70 ปี
การจำเเนก
ฮิปโปโปเตมัสถูกจำแนกออกเป็นชนิดย่อยต่าง ๆ ได้ตามลักษณะทางสัณฐาน
- H. a. amphibius – พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่อียิปต์ ปัจจุบันกำลังมีสถานะใกล้สูญพันธุ์ พบตั้งแต่ตอนใต้ของแม่น้ำไนล์ถึงแทนซาเนีย และโมซัมบิก
- H. a. kiboko – พบในเคนยาในภูมิภาคเกรตเลกส์ และโซมาเลียในจะงอยแอฟริกา มีกระดูกจมูกกลวงและกว้างกว่าฮิปโปโปเตมัสชนิดอื่น ๆ
- H. a. capensis – พบในแซมเบียจนถึงแอฟริกาใต้ เป็นชนิดที่มีกะโหลกแบนที่สุด
- H. a. tschadensis – พบกระจายพันธุ์ตลอดในแอฟริกาตะวันตกและชาด มีส่วนใบหน้าสั้นที่สุดและกว้าง มีพฤติกรรมความเป็นอยู่แตกต่างจากชนิดอื่น
- H. a. constrictus – พบในแองโกลา, ตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และนามิเบีย
สถานที่เลี้ยง
ปัจจุบัน ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์ที่ถูกจัดแสดงตามสวนสัตว์ต่าง ๆ ทั่วโลก หลายตัวกลายเป็นดาวเด่นหรือตัวดึงดูดใจประจำสวนสัตว์ หลายแห่งมีการเพาะขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้ประสบความสำเร็จ เช่น แม่มะลิ ฮิปโปโปเตมัสตัวเมียที่สวนสัตว์เขาดิน ของประเทศไทย ที่ตกลูกมาแล้วถึง 14 ตัว โดยฮิปโปโปเตมัสจำนวนมากที่สุดที่อยู่นอกทวีปแอฟริกา อยู่ที่สระน้ำ ภายในสวนสาธารณะฮาเซียนดานาโปน ในประเทศโคลอมเบีย จำนวนทั้งสิ้น 35 ตัว โดยเป็นฮิปโปโปเตมัสที่เกิดจากพ่อแม่พันธุ์เพียง 4 ตัว ที่ปาโบล เอสโกบาร์ นักค้ายาเสพติดชื่อดังในอดีตชาวโคลอมเบีย ซื้อมาจากสวนสัตว์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1980 โดยสวนสาธารณะแห่งนี้เดิมเคยเป็นสวนสัตว์ส่วนตัวของเอสโกบาร์มาก่อน
และในธรรมชาติ สถานที่ ๆ พบฮิปโปโปเตมัสได้มากที่สุด คือ แม่น้ำลูแองวา ในประเทศแซมเบีย ซึ่งเป็นสาขาหลักของแม่น้ำแซมเบซี
ที่มา: ฮิปโป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น